DRK Plastic Surgery
ศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจรระดับพรีเมี่ยม
โดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
ระดับอาจารย์แพทย์ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี
ปลูกผม เทคนิคย้ายเซลล์ (FUE)
Hair Transplant

ศัลยกรรมปลูกผมคืออะไร สาเหตุที่ต้องรักษา เหมาะกับใคร
ศัลยกรรมปลูกผมหมายถึง การผ่าตัดชนิดหนึ่ง ที่ทำการย้ายรากผมตามธรรมชาติของเราเองที่มีความคงทนแข็งแรง ไปปลูกใหม่ในตำแหน่งที่ผมร่วงหรือผมบางไปแล้ว เป็นการทดแทนเพื่อความสวยงาม เนื่องจากผมบนหนังศีรษะของเราในตำแหน่งต่างๆมีความแข็งแรงไม่เท่ากัน ผมที่อยู่บริเวณท้ายทอยจะแข็งแรงมาก และอายุขัยยาวนานกว่าผมที่อยู่ส่วนบนของหนังศีรษะ จึงสามารถย้ายรากไปปลูกทดแทนที่ตำแหน่งอื่นๆได้อย่างดี เหมาะกับทุกท่านที่มีปัญหา ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน หรือศีรษะเถิก และผู้ที่มีปัญหาผมเว้าแหว่งจากสาเหตุต่างๆ เช่น โรคผิวหนัง บาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก etc..
การรักษามีกี่แบบ อะไรบ้าง อะไรเป็นที่นิยม
การผ่าตัดแบ่งเป็นชนิดแผลกรีดยาว[FUT] กับชนิดแผลเจาะ[FUE] ทั้งสองวิธีได้ชื่อว่าเป็นการผ่าตัดทั้งคู่ แต่ระดับความลึกแค่ชั้นผิวหนัง แบบแรกจะมีแผลยาว ต้องทำการผ่าตัดหนังศีรษะเป็นแผงออกมาเพื่อมาแบ่งรากผมเป็นกอเล็กๆตามธรรมชาติที่ผมตั้งแต่ กอละ 1-3 เส้น แล้วนำกอผมเล็กๆ นี้กลับมาปลูกใหม่บนหนังศีรษะในตำแหน่งที่เราต้องการ เช่น ด้านหน้าเพื่อทำแนวผมในคนที่ศีรษะเถิก หรือกลางกระหม่อมในคนที่ผมบางศีรษะล้าน ส่วนวิธีที่สองที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือการเจาะเอารากผมจากท้ายทอยมาทีละกอ วิธีหลังจะมีแผลเป็นเล็กๆ เท่านั้นแต่กระจายทั่วไป เวลาแผลหายจะมองไม่ชัดเพราะเป็นจุดเล็กๆ เท่ารูขุมขน
เปรียบเทียบ การผ่าตัดแบบแผลกรีดยาว[FUT] กับการผ่าตัดแบบแผลเจาะ[FUE]
ข้อดีข้อเสียแต่ละวิธี ความแตกต่างของสองวิธีนั้นอยู่ที่ตำแหน่งท้ายทอยทั้งสิ้น ตำแหน่งที่ปลูกการหายไม่แตกต่างกัน


ปลูกผมเทคนิค FUT แบบแผลกรีดยาว
-
ทำได้ครั้งละจำนวนมากๆ เหมาะกับคนที่มีพื้นที่กว้างและต้องการปลูกด้วยจำนวนมาก
-
คุณภาพของกราฟท์ดีกว่ามาก การฟกช้ำเนื่องจากการผ่าตัดน้อย ดังนั้นเมื่อย้ายไปปลูก โอกาสที่จะงอกงามดีกว่า อัตราการงอกเกือบ 100%
-
เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม ทั้งหยิก หรือตรง หงอกและดำ ทุกชนิดสามารถใช้เทคนิกนี้ได้ผลดีเหมือนกันหมด
-
ไม่จำเป็นต้องโกนผมเพื่อทำหัตถการ
-
มีแผลเป็นยาวที่ท้ายทอย ต้องไว้ผมยาวอย่างน้อย 1-2 cm เพื่อปกปิดแผล ไม่เหมาะกับคนที่อยากไว้สกินเฮด
-
หลังผ่าตัดประมาณ 2-3 วันมีอาการเจ็บแผลผ่าตัดทางด้านหลัง
-
อาจมีความเสี่ยงในแง่ของการตัดโดนเส้นประสาทรับความรู้สึก ซึ่งทำให้มีอาการชาที่ด้านหลัง แต่มักจะหายเองได้ใน 3-4 เดือน
-
สามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ตั้งแต่วันแรกหลังผ่าตัด
-
มีไหมต้องตัดในช่วง 5-7 วันหลังผ่าตัด
ปลุกผม เทคนิคFUE แบบเจาะ
-
จำนวนกราฟท์หรือกอจำกัด ในหนึ่งครั้งสามารถทำได้มากสุดประมาณ 2000-3000 กราฟท์ ขึ้นกับความยากง่ายของเคสเพราะการเจาะทีละกอต้องใช้เวลานานกว่า
-
คุณภาพของกราฟท์ด้อยกว่า เพราะการเจาะและดึง ทำให้กราฟท์มีความชอกช้ำอยู่บ้าง เมื่อรากมีการบาดเจ็บและถูกย้ายไปปลูก อัตราการงอกจึงสู้แบบแผลยาวไม่ได้
-
ไม่เหมาะกับคนที่ผมหยิกมาก หรือผมหงอก เพราะมีโอกาสตัดรากขาดสูง ให้ผลการรักษาไม่ดี
-
จำเป็นต้องโกนผมเพื่อทำหัตถการ
-
แผลเป็นๆ จุดเล็กๆ กระจายทั่ว จึงสามารถปกปิดได้แม้ไว้ผมสั้น สามารถไว้ทรง สกินเฮดได้
-
ไม่เจ็บเลยตั้งแต่หลังผ่าตัด
-
โอกาสเกิดอันตรายต่อเส้นเลือดและเส้นประสาทน้อยมาก
-
สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติตั้งแต่วันแรกหลังผ่าตัด
-
ไม่ต้องตัดไหม
ปลูกผม เทคนิคย้ายเซลล์ (FUE)
หากเปรียบเทียบทั้งสองเทคนิค การที่จะเปรียบเทียบว่าเทคนิคไหนดีกว่ากันคงเป็นเรื่องยาก เพราะทั้งสองวิธีต่างมีข้อดีข้อเด่นแตกต่างกัน แต่ในช่วงหลังๆ เทคนิคการผ่าตัดปลูกผมแบบย้ายเซลล์หรือย้ายรากผมได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นพิเศษ จึงขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคนี้

ศัลยกรรมปลูกผม เทคนิคย้ายเซลล์ (FUE)คืออะไร?
FUE มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า Follicular Unit Extraction เป็นวิธีในการย้ายเซลล์ผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะ ไม่มีแผลเย็บเหมือนวิธีเก่าๆทั่วไป Follicular Unit Extraction (FUE) เป็นเทคโนโลยีการปลูกถ่ายย้ายผมที่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานระดับสากลว่าเห็นผลจริง มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีรอยแผลขนาดเล็กซึ่งเกิดจากการใช้หัวเจาะขนาดเล็กประมาณ 0.8-1.2 มม. เท่านั้น เจาะลงไปรอบๆ กอผมทีละกอ เจาะแบบลึกลงไปถึงรากผม แล้วดึงออกจากหนังศรีษะ หรือเรียกว่าวิธีการย้ายเซลล์ผมออกมานั่นเอง แล้วนำกลับไปปลูกใหม่ในบริเวณที่ต้องการ
ข้อดีในการทำศัลยกรรมปลูกผมเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction)
-
ความรู้สึกเจ็บแผลน้อยกว่าวิธีเก่า(Strip FUT) เพราะไม่ได้ตัดหนังศีรษะออกมาและไม่มีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
-
เส้นผมที่ขึ้นมาใหม่เป็นเส้นผมจริงของตัวท่านเอง ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ เมื่อร่วงไปแล้วก็กลับขึ้นใหม่ได้อีก
-
สามารถนำเส้นขนจากบริเวณอื่นๆของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้ง มาปลูกที่ศีรษะได้ขึ้นอยู่กับลักษณะของเส้นขนบริเวณนั้น
-
สามารถปลูกขนคิ้ว หนวดเคลาได้
-
เป็นวิธีที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด
-
ใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อย
ข้อควรปฏิบัติหลังศัลยกรรมปลูกผม
-
ไม่ควรขับรถยนต์กลับบ้านเอง หลังการผ่าตัดปลูกผม เนื่องจากฤทธิ์ของยานอนหลับอาจจะยังไม่หมด
-
ภายใน 24 ชม. แรกหลังการผ่าตัด ห้ามสัมผัสแผล ซับเลือด สระผม หรือ ถูกน้ำบริเวณที่ปลูกผม
-
ระวังในการขึ้น หรือ ลงรถยนต์ในขณะที่ศีรษะของท่านยังชาอยู่ การกระแทกของศีรษะอาจจะทำให้เส้นผมที่ปลูกอยู่หลุดได้
-
หลังการปลูกผมควรนอนในท่าที่ศีรษะสูงในช่วง 2-3 วันแรก โดยนอนหนุนหมอน
-
งดสระผมหลังการปลูกผม 24 ชั่วโมง
-
หลังครบ 24 ชั่วโมง ให้สระผมได้ด้วยแชมพู และทิ้งแชมพูไว้บนศีรษะประมาณ 15 นาที เพื่อให้สะเก็ดนิ่ม โดยสระผมทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น
-
ในกรณีที่มีอาการบวมบริเวณศีรษะ อาจใช้น้ำแข็งประคบบริเวณหน้าผากได้ แต่ห้ามประคบน้ำแข็งบริเวณศีรษะที่ได้รับการปลูกผมเด็ดขาด
-
ในกรณีที่มีสะเก็ดเลือดบริเวณผ่าตัดปลูกผม ห้ามแกะเด็ดขาด สะเก็ดเลือดเหล่านี้จะหลุดเองโดยธรรมชาติ ภายใน 2 สัปดาห์
ถามตอบ
ศัลยกรรมปลูกผมเหมาะกับใคร ?
-
เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องเส้นผม ไม่ว่าจะผมบาง หัวล้าน หัวเถิก แล้วต้องการมีผมที่ดูดกหนา หรือเพื่อการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้แก่ตัวเอง
ศัลยกรรมปลูกผมแล้วถ้าผมร่วงอีกจะหัวล้านเหมือนเดิมไหม?
-
ผมร่วงเกิดขึ้นได้แน่นอนครับ แต่จะไม่กลับไปล้านเหมือนเดิมแน่นอนเพราะผมที่ปลูกแพทย์จะเลือกกอผมที่แข็งแรง ดั้งนั้นผมร่วงไปก็เกิดใหม่ได้ครับ
ศัลยกรรมปลูกผมแล้วต้องดูแลรักษาอย่างไร?
-
ในช่วงแรกอาจะจะต้องดูแลป็นพิเศษแต่เมื่อผมที่ปลูกยาวและแข็งแรงดีก็ดูแลปกติครับ อย่างไรก็ตามต้องดูแลสุขภาพเส้นผมและหนังศรีษะให้ดีจะได้หล่อสวยกันไปนานๆ
ค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรมปลูกผม?
-
ค่าใช้จ่ายขึ้นกับปริมาณกราฟท์ที่ต้องใช้ ซึ่งแปรผันตามบริเวณกว้างและความหนาแน่นของผมที่ต้องการปลูก โดยทั่วไปจะอยู่ในหลักแสน เพราะเป็นงานฝีมือที่ยากและใช้เวลานานในการผ่าตัด แต่ความคุ้มค่าคือเป็นผลที่ได้ตลอดชีวิต แต่ข้อเสียก็คือถ้าทำการผ่าตัดกับแพทย์และทีมงานที่ไม่มีประสบการณ์ ก็อาจจะเป็นตราบาปตลอดชีวิตได้เหมือนกัน เพราะนอกจากผมจะขึ้นไม่ดีแล้ว อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่พึงปรารถนา เช่น แนวผมผิดธรรมชาติ ทิศทางของผมปัดเป๋ไปมาหวีจัดทรงไม่ได้ ผมขึ้นแหว่งเป็นหย่อมๆ ผมเป็นตอดูไม่ธรรมชาติเหมือนผมตุ๊กตา ดังนั้นก่อนตัดสินใจรักษาควรหาข้อมูลให้ดีก่อน
ข้อควรทราบก่อนศัลยกรรมปลูกผม?
-
ผมที่ย้ายรากมาเป็นผมของเราเอง ดังนั้นสามารถโกรก ดัด ย้อม หรือตัดได้ โดยผมก็จะยังคงงอกออกมาตามปกติ แต่อย่างไรก็ดี ผมที่ย้ายมาปลูกก็ยังคงมีวงจรชีวิตของมัน ดังนั้นยังสามารถร่วงได้ แต่ก็จะงอกกลับมาเป็นต้นใหญ่ดังเดิม ต่างจากผมที่มีปัญหาบริเวณส่วนบนที่ร่วงแล้วขึ้นมาเป็นต้นเล็กลงๆเรื่อยๆจนหมด
-
การปลูกผมคือการย้ายรากไปทดแทนส่วนที่หายไปแล้ว ดังนั้น ไม่ได้เป็นการรักษาโดยตรง การรักษาที่ตรงจุดคือการใช้ยา และแสงเลเซอร์พลังงานต่ำ ที่ช่วยประคับประคองไม่ไห้ผมตามธรรมชาติหลุดร่วงไป การปลูกผมเป็นเรื่องของศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้น ดังนั้นแม้จะปลูกไปแล้ว แพทย์ก็ยังแนะนำให้ใช้ยาควบคู่เพื่อรักษาผมที่เหลือไว้ให้มากที่สุด
-
ความหนาแน่นของผมปลูกไม่มีทางเทียบเท่ากับผมตามธรรมชาติ แต่เป็นการย้ายต้นใหญ่และแข็งแรงไปแทนที่ เนื้อผมจึงดูมากกว่า
-
ผลลัพธ์ขึ้นกับหลายปัจจัย ทั้งแง่สภาพความแข็งแรงของราก สภาพเส้นผม คนผมหยิกมักดูมีผมหนากว่าคนผมตรง คนที่ผมสีอ่อนจะดูเหมือนมีผมมากกว่าคนที่ผมสีเข้ม ความหนาแน่นของเส้นผมในคนผิวขาวจะมากกว่าคนเอเชีย
-
ในกรณีคนไข้ ไม่มีความประสงค์ที่จะรับการรักษาการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE หรือ FUT คนไข้สามารถรักษาหรือชะลออาการผมร่วง ผมบาง หัวล้านด้วยวิธี > ปลูกผมเทคนิค Mesotherapy


