DRK Plastic Surgery
ศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจรระดับพรีเมี่ยม
โดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
ระดับอาจารย์แพทย์ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี
ศัลยกรรมดูดไขมันใต้คาง
บริเวณไขมันใต้คางหรือคางสองชั้น (เหนียง) การดูดไขมันใต้คางช่วยกำจัดส่วนเกินของปัญหานี้ได้ดีเพื่อเน้นรูปหน้าและกรอบหน้าที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เทคนิค ดีอาร์เค บิวตี้ คลินิก ใช้วิธีการดูดไขมันด้วย vaser liposuction นอกจากจะช่วยให้เห็นกรอบหน้าได้ชัดเจนแล้ว ยังช่วยให้รูปหน้าดูผอมลง และใบหน้าอ่อนเยาว์ลงอีกด้วย ศัลยกรรมดูดไขมันใต้คางจึงเหมาะสำหรับกับบุคคลที่มีไขมันใต้คางค่อนข้างมากเพราะหลังทำช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
ดูดไขมันใต้คางเทคนิเฉพาะ ดีอาร์เค บิวตี้ คลินิก
-
ศัลยกรรมดูดไขมันใต้คางเทคนิคพิเศษ โดยใช้เข็มที่เล็กเป็นพิเศษทำให้มีแผลเป็นที่เล็กมาก
-
การดูดไขมันใช้ยาชาเฉพาะที่
-
การฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องพักนาน
-
ให้ผลการรักษาที่ดูเป็นธรรมชาติ
ศัลยกรรมดูดไขมันใต้คางเหมาะกับ
-
เหมาะสำหรับคนที่มีคางสองชั้นหรือเหนียงค่อนข้างเยอะ
-
สำหรับคนที่อายุยังไม่มาก เนื่องจากผลลัพธ์ก็จะยิ่งดีเพราะกระชับของผิวหนังที่ดีกว่า
-
ต้องการให้มีกรอบหน้า (Jawline) ที่ชัดขึ้น ทำให้หน้าเรียวมากขึ้น
-
ศัลยกรรมดูดไขมันใต้คางสามารถทำร่วมกับการศัลยกรรมเสริมคาง หรือทำจมูกเพื่อให้มีรูปหน้าที่เรียว วีเชฟ สวยงามยิ่งขึ้น
ศัลยกรรมดูดไขมันใต้คางอยู่ได้นานแค่ไหน
ศัลยกรรมดูดไขมันใต้คางคือวิธีการการทำลายเซลล์ไขมันให้ตายจึงไม่เหมือนกับการลดไขมัน ในวิธีอื่นๆ ดังนั้นไขมันใต้คางที่ดูดออกไปนั้นไม่กลับมาอีกแน่นอน ทั้งนี้ควรคงมาตราฐานน้ำหนักและสัดส่วนให้คงทีในก่อนและหลังทำเพื่อไม่ให้เกิดไขมันใต้คาง
ลักษณะแผลดูดใต้คาง
ศัลยกรรมดูดไขมันใต้คางที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก โดยศัลยแพทย์ ดีอาร์เค บิวตี้ คลินิก ลงแผล 1-2 จุด ขนาด 3มม. โดยประมาณซึ่งแผลจะถูกซ่อนอยู่บริเวณใต้คางหรือหลังหูขึงทำให้ไม่เห็นแผลชัด (ยิ่งนานแผลจะค่อยๆจางลง)
ระยะเวลาในการดูดไขมันใต้คาง 1 – 2 ชม.
ขั้นตอนการดูดไขมันใต้คาง





ขั้นตอนการดูดไขมันใต้คาง
-
เปิดแผลผ่าตัดเล็กๆ โดยทั่วไปจะซ่อนแผลเป็นในตำแหน่งที่เห็นไม่ชัด เช่น หลังใบหู หรือใต้คาง
-
ฉีดสารละลายที่เป็นยาชาและยาหยุดเลือดใต้ผิวหนังรอประมาณ 10 นาที
-
ดูดไขมันโดยใช้หัวดูดขนาดเล็ก ดูดในตำแหน่งที่ต้องการ
-
เย็บปิดแผล ถ้าแผลขนาดเล็กอาจไม่ต้องเย็บปิดแผล
-
ปิดแผล
การดูแลหลังผ่าตัด
-
นอนยกศรีษะสูงประมาณ 1 - 2 อาทิตย์ เพื่อลดอาการบวมหลังผ่าตัด
-
ทานยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบตามที่แพทย์จ่ายให้
-
ผ้าพันศรีษะพันไว้ประมาณ 3 วัน เพื่อลดอาการบวมได้ดี
-
นัดตัดไหมประมาณ 5 วัน
-
หมั่นประคบเย็นพื่อลดอาการบวม
-
รับประทานยาตามแพทย์สั่งถ้าเกิดอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นแดง, คัน,คลื่นไส้,อาเจียน, แน่นหน้าอก มาพบแพทย์หรือแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
-
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์หลังการผ่าตัด
-
ถ้ามีอาการเลือดออกมากผิดปกติ หรือบวมมากควรแจ้งแพทย์โดยทันที
-
สามารถใช้กิจวัตรประจำวันได้หลัง 1-2 สัปดาห์
