การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด

1. งดรับประทานยาบางประเภทอย่างน้อย 1 อาทิตย์ เช่นยาในกลุ่มเอสไพริน งดวิตามิน  อาหารเสริมต่างๆทุกชนิด  เช่น  วิตามิน E, น้ำมันตับปลา, เมล็ดองุ่น, ใบแปะก๊วย, โสม ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันภาวะเลือดออกง่ายในระหว่างการผ่าตัด

2. หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 อาทิตย์

3. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ชา กาแฟ ในกรณีที่ต้องให้ยาสลบ หลีกเลี่ยงอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

4. ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียด หากมีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา

5. หลีกเลี่ยงการสวมใส่เครื่องประดับที่เป็นโลหะก่อนขึ้นทำการผ่าตัด

6. ควรมีเวลาหยุดพักหลังศัลยกรรมล่วงหน้า 5-7 วัน

7. ไม่มีโรคเกี่ยวกับดวงตา หรือมีภาวะตาอักเสบก่อนผ่าตัด

8. เตรียมแว่นกันแดด สำหรับใส่ป้องกันฝุ่นละออง หรือเชื้อโรคเข้าดวงตาหลังทำศัลยกรรมเสร็จ

​

​​

ขั้นตอนการผ่าตัด

1. แพทย์จะวาดเส้นที่หนังตาบริเวณที่ต้องการผ่าตัด ถ้ามีการหย่อนของหนังที่หางตามากแผลผ่าตัดก็จะต้องยาวออกไปเล็กน้อย

2. แพทย์อาจให้คุณรับประทานยาคลายกังวล จากนั้นจึงฉีดยาชาบริเวณหนังตาบน คุณจะไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัด

3. ฉีดยาชาที่บริเวณหนังตา บริเวณที่จะทำผ่าตัด

4. ทำการตัดผิวหนังตามเส้นที่ได้วาดเอาไว้ โดยจะเปิดแผลขนาดเล็กตรงบริเวณรอยชั้นตาที่จะเกิดขึ้นใหม่ โดยปกติยาวประมาณ 0.5-1 ซม. จากนั้นจึงมีการตัดแต่งกล้ามเนื้อภายในรวมทั้งนำถุงไขมันออกไป(ถ้ามี) 

5. แพทย์ทำการเย็บในบริเวณที่กรีดด้วยไหมเส้นเล็กมาก รอยกรีดหลังการผ่าตัดตา 2 ชั้นนั้นจะซ่อนอยู่ในชั้นตาที่สร้างขึ้นใหม่

การดูแลหลังผ่าตัดเสร็จ

1. ควรประคบเย็นที่บริเวณน้าผากและรอบดวงตา ในช่วง 2 วันแรกหลังการผ่าตัด

2. หลังการผ่าตัด 24 ชั่วโมง ให้เริ่มทายาขี้ผึ้งเคลือบแผลตามแพทย์สั่งที่บริเวณแผลตรงเปลือกตา

3. รับประทานยาแก้อักเสบและยาลดบวม หากปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้

4. นอนยกศรีษะให้สูงในระยะแรกๆ 

5. หลังการผ่าตัด 3 วัน ก็เริ่มล้างหน้าได้ตามปกติ

6. กลับมาพบแพทย์เพื่อตัดไหมตามที่แพทย์ได้นัด ประมาณ 5 -7 วันหลังผ่าตัด

7. อาการบวมหลังการผ่าตัดจะมีอยู่ประมาณ 3 วัน ในวันที่ 4 ก็จะเริ่มยุบบวมไปเรื่อยๆ จนเข้าที่ประมาณ 1 เดือน

8. ห้ามขยี้ตาแรงๆเป็นเวลา 1 เดิอน

9. ห้ามแต่งหน้า ใน 7 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการปนเปื้อนบริเวณแผลผ่าตัด