DRK Plastic Surgery
ศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจรระดับพรีเมี่ยม
โดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
ระดับอาจารย์แพทย์ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี
ศัลยกรรมเสริมหน้าอก

ปัจจุบันนี้ผู้หญิงได้หันมากเลือกศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นอย่างมากเพื่อต้องการเน้นสัดส่วนและหุ่นที่โค้งเว้าเพื่อการแต่งตัวและบุคคลิกที่ดี โดยธรรมชาติของผู้หญิงจึงอยากมีขนาดหน้าอกที่เป็นธรรมชาติได้สัดส่วนที่สวยงาม ศัลยกรรมเสริมหน้าอกจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้หญิงโดยปัจจุบันศัลยแพท
ย์ตกแต่งเฉพาะทางได้พัฒนาความรู้และเทคนิคมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีหลาก หลายทางเลือก
แต่หากเพื่อความปลอดภัยการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกควรได้รับการผ่าตัดจากศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางจึงจะดีที่สุด
ศัลยกรรมเสริมหน้าอกโดยใช้ถุงเต้าเทียม ดีอาร์เค บิวตี้ คลินิก เลือกใช้วัสดุ Mentor โดยผ่านการรับรองมาตราฐาน FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซิลิโคนนี้ศัลยแพทย์ได้รับการเชื่อมั่นจากการวิจัยในการศัลยกรรมหน้าอกที่ปลอดภัยไม่เสี่ยงต่อการรั่วซึมในอนาคต อีกทั้งศัลยกรรมเสริมหน้าอกโดยการวางยาสลบด้วยวิสัญญีแพทย์เฉพาะทาง
Cohesive Gel Silicone
ศัลยกรรมเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนเจล Cohesive gel หรือเรียกว่า Gummy bear gel โดย Gel ชนิดนี้คงรูปร่าง รูปทรง ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นที่นิยมมากกว่าถุงน้ำเกลือที่มีโอกาสรั่วซึม ในขณะที่ Cohesive Gel หากเสื่อมสภาพจะไม่รั่วไหลออกมาสู่ร่างกาย อีกทั้งซิลิโคนเจลได้รับการรับรองจาก FDA
ไม่เป็นอันตรายและปลอดภัย
รูปแบบของซิลิโคนมี 2 แบบ
-
รูปทรงกลม Round Implant
-
รูปทรงหยดน้ำ Shaped Implants
**ชาจ์ภาพของซิลิโคนทรงกลมและหยดน้ำ**

ลักษณะผิวของถุงซิลิโคน
-
ผิวเรียบ (Smooth Implant) จะมีความหนาน้อยกว่าผิวทราย ทำให้เวลาสัมผัสจะรู้สึกนิ่มกว่า การเคลื่อนถุงทำได้ง่ายและรอบทิศทางโอกาสในการเกิดรอยพับของถุงน้อยกว่าผิวทราย รวมถึงการเกิดพังผืดมากกว่าผิวทรายเช่นกัน
-
ผิวทราย (Textured Implant) จะมีความหนากว่าผิวเรียบและด้วยผิวสัมผัสที่เป็นผิวทรายทำให้เกิดรอยพับของถุงมากกว่าผิวเรียบ การเคลื่อนถุงสามารถทำได้ในระดับหนึ่งไม่สามารถเคลื่อนไหวรอบทิศทางเหมือนผิวเรียบได้
วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอก
Periareola หรือ ผ่าตัดบริเวณปานนม

-
ต้องมีการผ่าตัดผ่านเนื้อเต้านม ทำให้อาจมีอาการชาของหัวนมได้และอาจจะหมดความรูสึกในส่วนนี้ไป
-
เทคนิคนี้ขนาดหัวนมต้องมีขนาดใหญ่พอ
-
เหมาะกับบางรายที่มีผิวหนังที่ยืดหยุ่นได้ดีและหนาพอไม่เหมาะกับคนที่มีผิวบางเกินไปรวมไปถึงการใส่ซิลิโคนที่ใหญ่เกินไป
-
ในคนเอเชียบริเวณขอบปานนมจะไม่เป็นที่นิยมเพราะจะเห็นแผลเป็นค่อนข้างชัดจะใช้วิธีซ่อนแผลรอบปานนม
Transaxillary หรือ ผ่าตัดบริเวณรักแร้

-
บาดแผลจะซ่อนอยู่ทางใต้รักแร้ไปตามรอยพับของผิวหนังข้อดีคือสามารถซ่อนแผลเป็นได้ง่ายแผลบริเวณนี้มักใช้ในกรณีที่ไม่ต้องการให้มีแผลบริเวณเต้านมเลย
-
แต่ระยะทางจากรักแร้ถึงทรวงอกนั้นค่อนข้างไกล การเลาะพังผืดเนื้อเยื่อเพื่อใส่ซิลิโคนก็อาจทำให้เกิดการบอบช้ำได้มากกว่า
-
วิธีนี้ไม่เหมาะกับการใส่ซิลิโคนชนิดหยดน้ำที่ต้องจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพราะลักษณะซิลิโคนที่ไม่สมมาตร การใส่จะต้องได้ตำแหน่งที่ถูกต้องฝั่งที่มีความนูนจะต้องอยู่กึ่งกลางพอดี
-
ข้อเสียคือ มีโอกาสที่เต้านมซิลิโคนจะเคลื่อนขึ้นสูงกว่าปกติได้
-
ปัจจุบันมีเทคนิคใส่ซิลิโคนโดยใช้กล้องสอดมาช่วย
Inframammary หรือ ผ่าตัดบริเวณใต้ราวนม

-
แผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณส่วนที่ต่ำสุดของเต้านม โดยจะซ่อนอยู่ในขอบชั้นในเหมาะกับคนที่ชอบใส่เสื้อแขนกุด
-
แพทย์สามารถจัดตำแหน่งของเต้านมที่เสริมและห้ามเลือดระหว่างผ่าตัดได้เหมาะกับการเสริมเต้านมแบบทรงหยดน้ำ ทั้งนี้จะมีความบอบช้ำน้อยแผลโดยมากจะอยู่ในรอยพับระหว่าง เต้านมกับทรวงอกจึงมองแผลไม่เห็นชัด
-
ข้อเสียคือจะมีแผลเป็นบริเวณหน้าอกซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบหรือกังวลใจว่าจะเห็นแผลได้ง่ายในเวลานอนหงาย
ลักษณะการเสริมหน้าอกในแต่ละเทคนิค

การเตรียมตัวก่อนผ่าตักศัลยกรรมเสริมหน้าอก
-
ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด
-
งดวิตามิน หรือยาสมุนไพรทุกชนิด กระเทียม ใบแปะก๊วย 2 - 4 สัปดาห์
-
งดยากลุ่ม แอสไพริน ยาแก้ปวด ยาต้านอาการซึมเศร้า ยากระตุ้นประสาท 2 - 4 สัปดาห์
-
งดทานยาลดน้ำหนัก 4 สัปดาห์
-
ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงต่อผลเลือดต้องมีใบรับรองแพทย์จากแพทย์ที่ท่านรักษา เพื่อยืนยันการผ่าตัด
-
ผู้ที่คลำพบก้อนบริเวณเต้านมต้องมีผลการตรวจชัดเจน และควรผ่าตัดเอาก้อนออก พร้อมผลตรวจสุขภาพว่าไม่ใช่เนื้อร้าย
-
ผู้ที่มีผลเลือด HIV เป็นบวก ต้องมีผล CD4 มาพร้อมกับใบรับรองแพทย์ที่ท่านรักษา โดยราคาค่าผ่าตัดผู้ที่มีผลเลือด HIV เป็นบวก จะเพิ่มอีก 100%
-
ควรหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน เนื่องจากจะทำให้ดูแลตัวเองได้ยากขึ้น
-
ควรลาหยุดงานประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอก
-
เปิดแผลในตำแหน่งที่ตกลงกับแพทย์ไว้ก่อนการผ่าตัด
-
แพทย์จะทำช่องว่างไว้ผ่านทางแผลเปิด โดยอาจทำตามตำแหน่งที่จะวางซิลิโคนตามที่ตกลงกับแพทย์ไว้
-
ใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปยังตำแหน่งที่ทำช่องว่างรอไว้แล้ว
-
ขยับช่องว่างจนได้ขนาดกว้างกว่าถุงซิลิโคน และไม่มีรอยยับของถุง
-
ล้างแผลและช่องว่างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
-
เย็บปิดแผล
-
ใช้ผ้ายืดพันบริเวณเต้านม เพื่อลดการไหลของเลือดและทำให้ถุงซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งปกติ
การดูแลหลังผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอก
-
แผลผ่าตัด: แผลหลังผ่าตัดจะเย็บไว้ด้วยไหมที่ไม่สลาย หลังการผ่าตัด 5 วัน แพทย์จะนัดมาตัดไหม ควรมาตัดไหมตามกำหนดของแผลเพื่อลดการเกิดแผลเป็นจากไหม ทำความสะอาดแผลโดยการเช็ดด้วยเบตาดีน หรือน้ำเกลือสะอาด วันละ 1 - 2 ครั้ง เช้า - เย็น ควรงดการอาบน้ำโดยวิธีทำความสะอาดโดยการเช็ดตัวท่อนบนจนกว่าจะตัดไหม
-
การรับประทานอาหารและยา: ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด งดเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่และอาหารหมักดอง จนกว่าแผลจะหายดี
-
การจัดท่า: ควรนอนยกศีรษะสูง หนุนหมอน 2 ใบ และควรนอนในท่านอนหงาย ไม่ควรนอนตะแคงหรือนอนคว่ำในช่วง 1 - 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด เนื่องจากท่าหนอนหงายจะทำให้ถุงซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
-
การทำกิจวัตรประจำวัน: งดเว้นการอุ้มเด็ก และทำงานบ้านประมาณ 1 สัปดาห์ ไม่ควรยกของหนักเกิน 1 กก. ใน 3 สัปดาห์แรก สามารถขับรถได้หลัง 1 สัปดาห์ไปแล้ว เนื่องจากหลังผ่าตัดใหม่ๆ ยังทำให้หมุนพวงมาลัยรถได้ลำบาก
-
รอยแผลเป็น: สามารถทายาลดรอยแผลเป็นได้ หลังจากแผลผ่าตัดหายสนิทดีแล้วควรทาครีมกันแดดควบคู่ไปด้วย จะทำให้แผลเป็นจางเร็วขึ้น
-
การใช้ยกทรง: ให้ใช้ยกทรงแบบไม่มีโครง หรือ Support Bra ประมาณ 1 เดือน หรือตามแต่ดุลยพินิจของแพทย์พิจารณา
-
การออกกำลังกาย: งดออกกำลังกายในช่วง 3 สัปดาห์แรก สามารถออกกำลังกายได้ปกติ หลังจาก 1 เดือนไปแล้ว
สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัด
-
มีอาการชาหรือเจ็บแปลบๆ บริเวณเต้านมหรือหัวนม อาการดังกล่าวจะดีขึ้น 3 - 6 เดือน
-
ขนาดของเต้านมจะไม่เท่ากัน ซึ่งเต้านม 2 ข้าง จะดูไกล้เคียงกันและเป็นธรรมชาติต้องใช้เวลาซักระยะ โดยประมาณ 1 - 2 เดือน
-
อาการปวด หากเป็นการเสริมแบบเหนือกล้ามเนื้อจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ส่วนใต้กล้ามเนื้ออาจจะประมาณ 2 - 3 สัปดาห์
-
อาการคันรอบเต้านม เกิดเนื่องจากผิวหนังมีการตึงขึ้นจากการขยายตัวของเต้านม สามารถใช้โลชั่นทาได้ อาการจะดีขึ้นเองประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
-
อาการบวมตึง จะค่อยๆ ลดลง ใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์
-
อาการเขียวช้ำ จะค่อยๆ ลดลง ประมาณ 3 สัปดาห์
**รูปการ์ดใบรับประกันของ mentor พร้อมกล่อง**

Mentor
-
รูปทรงกลาง
-
น้ำหนักของถุงซิลิโคน
-
ขนาดความกว้าง,ความสูงของถุงซิลิโคน
-
ผิวทราย
-
ทรงกลม
-
serial number หมายเลขประจำซิลิโคน
ซิลิโคนเสริมหน้าอก MOTIVA
ซิลิโคน Motiva ได้พัฒนาซิลิโคนให้มีข้อดีและส่งผลดีต่อร่างกายของมนุษย์ ทำจากวัสดุซิลิโคนชนิดเจลด้วยเทคโนโยลีใหม่ล่าสุดด้วยกรรมวิธี ergonomic (สรีระศาสตร์) ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถลดขนาดรอยกรีดยาวของแผลผ่าตัด อีกทั้งวัสดุชนิดนี้ยังเป็นวัสดุเสริมระดับพรีเมี่ยม รูปทรงมีความถ่วงสมดุลเข้ากับสรีระ แก้ไขให้การเคลื่อนไหวของหน้าอกและรูปร่างมีความเป็นธรรมชาติ รวมทั้งความรู้สึกจากการสัมผัสที่เสมือนหน้าอกจริง
Motiva ได้รับการตรวจสอบและยืนยันจากสถาบัน FDA ว่าเป็นซิลิโคนที่ปลอดภัย ไม่เพียงแค่เคสที่ทำหน้าอกครั้งแรกเท่านั้น สำหรับเคสที่แก้ไขหน้าอกรอบสอง ก็มีความปลอดภัยสูงเช่นกัน ซิลิโคนโมติวาจึงได้รับการกล่าวขานว่า เป็นซิลิโคนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดในขณะนี้
Motiva เป็นซิลิโคนรุ่นใหม่ที่โด่งดังและนิยมมากในที่ประเทศเกาหลี แต่มีฐานการผลิตอยู่ที่อเมริกาใต้และบริษัทแม่ตั้งอยู่ที่ New York แต่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับสาวๆ ที่เกาหลีในขณะนี้ และตอนนี้ได้เปิดตัวที่ประเทศไทย ผ่านการรับรองโดย อย.ของไทย ว่าเป็นซิลิโคนที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย

Motiva เหมาะสมกับผู้หญิงที่มีผิวบางได้อย่างดี มีสัมผัสอ่อนนุ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังลดการฉีกขาดและเคลื่อนที่ของซิลิโคน ด้วยซิลิโคนเจลบวกกับชั้นเสริมอย่าง BluSeal® มีผิวสัมผัสแบบ Nano Texture ผิวอ่อนนุ่มคล้ายกำมะหยี่ ยับยั้งการเกิดพังผืดรัดถุงซิลิโคนได้ดียิ่งขึ้น ไม่เห็นเป็นคลื่นหรือเห็นขอบซิลิโคนแม้ผิวบาง และสัมผัสอ่อนนุ่มโดยไม่ต้องนวด
